ชื่นชม หมอทำขวัญหนุ่มหน้าตาดีที่โคราช

ข่าวโคราช

ชื่นชม หมอทำขวัญหนุ่มหน้าตาดีที่โคราช

ฮือฮา หมอสู่ขวัญหนุ่มแบบฉบับภาษาอีสานหน้าตาดีวัย30ปี จากเรียนเพราะต้องการรักษาตำรา สู่การทำเป็นอาชีพหลัก

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 63 ที่ จ.นครราชสีมา ได้มีกลุ่ม บ่าวไทบ้าน แม้มาอยู่ในตัวเมือง ก็ไม่ลืม ประเพณีพื้นบ้าน ได้จัดพิธีบายศรี สู่ขวัญแบบฉบับอีสาน ให้กับสมาชิกในกลุ่ม 3 คน หลังจากคนแรกประสบอุบัติเหตุทางถนน ส่วนอีกคน เจ็บป่วยพึ่งหาย และอีกคนมีลูกชายเตรียมเข้าอุปสมบถ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ คาดว่าสมาชิกในกลุ่มหลายคนอาจจะไม่ได้เดินทางไปร่วมได้จึงจัดพิธีสู่ขวัญให้พร้อมกัน

งานในครั้งนี้มีจุดที่น่าสนใจคือ มีหมอสู่ขวัญที่ เดินทางมาทำพิธีให้ เป็นหมอสู่ขวัญหนุ่มอายุเพียง 30 ปี คือนายศุภชัย หอยตะคุ 30 ปี เป็นหมอพราหมณ์ จากบ้าน หนองตาอุด ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ถือเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเนื่องจากจากปกติหมอสู่ขวัญจะเป็นผู้สูงอายุ

จากการสอบถามศุภชัย บอกว่า เดิมทีไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาเป็นหมอสู่ขวัญ แต่มีความสนใจที่จะรักษาตำราสู่ขวัญไว้ เนื่องจากหมอสู่ขวัญในหมู่บ้านมีอายุมากแล้ว เห็นว่าตนมีแววจึงเลือกให้ไปเรียนเพื่อสืบทอดต่อ ตนกลัวว่าหากไม่มีคนมาสืบสานต่อก็จะหายไปกับหมอขวัญคนปัจจุบัน จึงตัดสินใจไปเรียนต่อเพราะต้องการเก็บตำราที่อยู่คู่กับหมู่บ้านไว้

โดยวิธีการทำขวัญของตนจะทำในรูปแบบของคนอีสานเรียกขวัญสู่ขวัญเป็นภาษาอีสาน ซึ่งตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้ทำจริงจังขนาดนี้ แต่เมื่อได้ทดลองทำมีคนมาเห็นก็ชอบและเห็นว่าไม่ค่อยได้เห็นหมอหนุ่มขนาดนี้ ก็ชื่นชมและมีติดต่อมาให้ทำพิธีให้อยู่เรื่อย ๆ ตนหลังจากที่ได้ทำก็รู้สึกรักในอาชีพนี้ก็พยายามทำพิธีให้สบบูรณ์ครบถ้วนที่สุดเพื่อความเป็นสิริมงคลของคนที่เชิญให้ไปจัดพิธีให้ ส่วนราคาคาครูในพิธีปกติ 24 บาท แต่หากสั่งพานบายศรีด้วยก็จะทำให้ไปพร้อม ก็สามารถทำได้ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท ถึง 2,500 บาท บวกกับค่าเดินทางอีกและแต่ระยะทางที่เดินทางไปทำพิธี ซึ่งปัจจุบันถือได้ว่าตนทำพิธีสูขวัญเป็นอาชีพหลักไปแล้ว

ผู้ที่อยู่ในเขต จ.นครราชสีมา หากสนใจจะให้เดินทางไปทำพิธีสู่ขวัญให้สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0933296197

สำหรับ พิธีบายศรีสู่ขวัญ เรียกได้หลายอย่าง เช่น พิธีบายศรี, พิธีสู่ขวัญ, พิธีทำขวัญ, พิธีรับขวัญ เป็นประเพณีอย่างหนึ่งของคนไทย และคนลาว ด้วยความเชื่อที่ว่า ทุกคนเกิดมาพร้อมกับสิ่งนามธรรมอย่างหนึ่งที่เรียกกันว่า “ขวัญ” ซึ่งมีหน้าที่รักษาประคับประคองชีวิตและติดตามเจ้าของไปทุกหนแห่ง การทำพิธีสู่ขวัญจึงเป็นการเชิญขวัญที่หนีหายไปให้เข้ามาอยู่กับตัว และเชื่อว่าเป็นการส่งเสริมพลังใจให้เข้มแข็ง มีสติและไม่ประมาท

ประเพณีบายศรีสู่ขวัญใช้เครื่องเชิญขวัญที่เรียกว่า บายศรี ทำด้วยใบตอง รูปคล้ายกระทง เป็นชั้น ๆ มีขนาดใหญ่เล็กสอบขึ้นไปตามลำดับ เป็น 3 ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้น หรือ 9 ชั้น มีเสาปักตรงกลางเป็นแกน มีเครื่องสังเวยวางอยู่ในบายศรี และมีไข่ขวัญ (ไข่ต้ม) เสียบอยู่บนยอดบายศรี มีหลายประเภท เช่น บายศรีตอง บายศรีปากชาม บายศรีใหญ่ (ภาษาเขมร บาย = ข้าว + ศรี = สิริ หมายความว่า ข้าวอันเป็นสิริหรือข้าวขวัญ) มีการพันสายสิญจน์ไว้โดยรอบเพื่อใช้ผูกข้อมือผู้รับขวัญ ผู้นำทำพิธีเรียกว่า หมอขวัญ

บายศรีนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าได้ประดิษฐ์ขึ้นมาจากคติความเชื่อของพราหมณ์ พิจารณาจากการนำใบตองมาประดิษฐ์บายศรี เนื่องด้วยใบตองนั้นเป็นของสะอาดบริสุทธิ์ไม่มีมลทินของอาหารเก่าให้แปดเปื้อน และอีกประการหนึ่งก็คือ รูปร่างลักษณะของบายศรีที่ได้จำลองเขาพระสุเมรุซึ่งเป็นที่สถิตของพระอิศวร ตลอดจนเครื่องสังเวยก็มีความเชื่อมาจากคติพราหมณ์เช่น ไข่ แตงกวา มะพร้าว รวมถึงพิธีการ เช่น การเวียนเทียน การเจิม และพิธีการต่าง ๆ เหล่านี้พราหมณ์เป็นผู้ประกอบพิธีทั้งสิ้น

ในภาคเหนือจะเรียกบายศรีว่า "ใบสี", "ใบสรี" หรือ "ใบสีนมแมว" และจะเรียกพานบายศรีว่า ขันใบสี เพราะชาวล้านนาจะเรียกพานว่า ขัน แล้วเรียกขันว่า สลุง บายศรีแยกเป็น 4 ประเภท คือ

บายศรีหลวง

บายศรีนมแมว

บายศรีปากชาม

บายศรีกล้วย

ส่วนในภาคอีสานจะเรียกบายศรีว่า "พาบายศรี", "พาขวัญ" หรือบางท้องถิ่นเรียกว่า "ขันบายศรี" ในภาคอีสานจะแยกบายศรีออกเป็น 3 ประเภท คือ

พาขวัญ

พาบายศรี

หมากเบ็ง

ในส่วนภาคอีสานที่มีเชื้อสายของเขมรจะมีการเรียกบายศรีว่า "บายแสร็ย" ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

บายแสร็ยเดิม (บายศรีต้น)

บายแสร็ยเถียะ (บายศรีถาด)

บายแสร็ตจาน (บายศรีปากชาม)