หนองบุญมากจับหนุ่มส่งยาบ้าแลกแค่แรง200เม็ดยึดของกลาง1.5แสน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ก.ค.  พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 (ผบช.ภ.3)พร้อมด้วย พล.ต.ต.คีรีศักดิ์  ตันตินวะชัย, พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3 , พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา (ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา) และพ.ต.อ.พิษณุ วัตถุ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา  ร่วมกันแถลง ผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาบ้า ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ของกลาง กว่า 1.5 แสนเม็ด

ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ประกอบด้วย นายเทพกร หรือมืด ฉายแสง อายุ 31 ปี จับได้พร้อมยาบ้า 20 เม็ด นายวัฒนพงษ์ หรือน๊อต เชาวนาศิริ  อายุ​31ปี​ อยู่​บ้าน​เลขที่​143 ม.9​ ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา​ อ.หนอกกี่​ จ.บุรีรัมย์​ จับได้พร้อมยาบ้า 105,400 เม็ด  โดยการจักกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก สภ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จับกุมนายเทพกร หรือมืด ฉายแสง อายุ 31 ปี  ได้พร้อมของกลางยาบ้า 20 เม็ด สอบสวนรับสารภาพว่าซื้อยาบ้างมาจากนายวัฒนพงษ์ หรือน๊อต เชาวนาศิริ  จำนวน 50 เม็ด ในราคา 2,000 บาท จึงให้นายเทพกร ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนายวัฒนพงษ์ 3 ถุง ๆ ล่ะ 200 เม็ดในราคา 13,000 บาท นัดส่งของกันในพื้นที่ ต.หนองบุญนาก อ.หนองบุญนาก จ.นครราชสีมา

ถืงเวลานัดหมายนายวัฒนพงษ์ เดินทางมาตามนัด แต่ไหวตัวทันหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงติดตามควบคุมตัวได้ที่บ้านของนายวัฒนพงษ์ หลังหนึ่งในเขตพื้นที่  ต.หนองบุญนาก อ.หนองบุญนาก จ.นครราชสีมา ก่อนขยายผลตรววจยึดยาบ้า ที่ซุกไว้ข้างแปลงผักในพื้นที่หมู่ 15 ตำบลเดียวกัน ได้ยาบ้าทั้งหมด เป็นสีแดง 104,346 เม็ด สีเขียว 1,054 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดที่ยึดจากจากการจับกุมครั้งนี้ รวม 105,420 เม็ด

                สอบสวนนายวัฒนพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจากพื้นที่ ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 30 มมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนายชาญณรงค์ หรือ แหลม คลังนอก ไม่ทราบอายุ ซึ่งเคยรู้จักการตอนติกคุกอยู่ในเรือนจำนางรอง โดยนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่รอยต่อ  อ.หนองบุญนาก นครราชสีมา- อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนหน้าได้รับจ้างส่งบ้าตามคำสั่งนายชาญณรงค์มาแล้ว 3 ครั้งมีหน้าที่ส่งอย่างเดียว ส่วนการรับจ่ายเงินนานณรงค์ เป็นคนจัดการ ได้ค่าจ้างเป็นยาบ้าครั้งล่ะ 200 เม็ด  ซึ่งจะนำไปเสพและขายต่อหาเงินเที่ยวแต่ใช้ส่วนตัวก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

                ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายวัฒนพงษ์ ตรวจปัสสาวะ พบมีสารเสพติด จึงควบคุมตัวดำเนินคดี เสพบาเสพติดให้โทษ และข้อหาครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมเตรียมขยายผลจับกุมเครือข่ายมาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป

                อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนหากพบเบาะแสการทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด ผ่านสายด่วนยาเสพติด 191 และแอปพลิเคชั่น Police I Iert You ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการปราบปรามและช่วยลดปัญหายาเสพติดในสังคม ให้สังคมเกิดความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติดตลอดไป

Tweet

Share

0