ฟังความ2ข้างครูปาแก้วใส่นักเรียนปากเบี้ยว ใครผิดใครถูกสมเหตุสมผลหรือ ลองฟังทั้งคู่แล้วค่อยตัดสินใจ จากกรณีญาติ ๆ พา น.ส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือทราย อายุ 17 ปี นักเรียน โรงเรียนโชคชัยสามัคคี โรงเรียนประจำอำเภอ เข้าร้องขอความเป็นธรรม กับหลายหน่วยงานพร้อมทั้งสื่อมวลชนส่วนกลางที่ กรุงเทพฯ อ้างถูกครูพละในโรงเรียนปาแก้วใส่หน้าโดนเส้นประสาทจนทำให้ปากเบี้ยว ทำให้คนส่วนใหญ่ออกมาประณามการกระทำของครูคนดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ร้อยตรี นิพนธ์ ภักดีแก้ว ผอ.โรงเรียนฯ ได้รับการเปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้เป็นการตั้งใจปาใส่นักเรียน เป็นเพียงปาใส่ผนังห้องซึ่งเป็นกระจกเพื่อปราม แต่แก้วกระเด็นมาถูกเด็กนักเรียนจนเกิดเรื่องขึ้น โดยในวันเกิดเหตุคือวันที่ 8 ส.ค. เด็กยังไม่เป็นอะไรก่อนที่จะมีอาการในวันที่ 9 จึงพอไปรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ก่อนที่จะถูกส่งรักษาที่ รพ.มหาราช นคราชสีมา จากนั้นญาติได้พาเด็กเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ สภ.โชคชัย โดยในช่วงที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาลใช้เงินค่ารักษาไปกว่า 4 หมื่นบาท โดยก่อนหน้าได้มีการขอเจรจาชดใช้ค่าเสียหายนัดหมายตกลงกันที่โรงพัก รวม 3 ครั้งคือ วันที่ 18 ส.ค. วันที่ 2 ก.ย. และล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ย. แต่ตกตกลงกันไม่ได้ เด็กจึงเดินทางเข้าที่ กรุงเทพฯเพื่อร้องเรียนจนเป็นข่าวดังในที่สุด โดยในการตกลงครั้งแรก ทางเด็กเรียกร้องเงิน 3 แสนบาท ทางครูขอจ่าย 8 หมื่นบาท ส่วนครั้งที 2 ทางเด็กลดให้เหลือ 2.9 แสนบาท ครูขอจ่าย 8 หมื่นทางเด็กก็ไม่ยอม และล่าสุด วันที่ 12 ก.ย.มีการตกลงกันต่อหน้าพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ครูขอจ่าย 1 แสน ขณะที่ทางเด็กต้องการ 3 แสน จึงไม่สามารถตกลงกันได้จนเป็นเรื่องใหญ่ในที่สุด นอกจากนี้ทาง ผอ.โรงเรียนได้พาเดินไปจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นห้องพละ ติดกับสนามตะกร้อ โดยมีเด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งรอให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับยืนยันว่าครูไม่ได้ปาแก้วใส่เด็กโดยตรง โดยโยนใส่ผนัง ส่วน อาจารย์ทินกร ขอแนบกลาง ครูกลุ่มสาระพละศึกษา โรงเรียนดังกล่าวยังบอกว่าช่วงเกิดเหตุก็อยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งได้ยินเสียงครูไพฑูรย์ แกลงกระโทก โยนแก้วโดนกระจกก่อนจริง ไม่ได้ตั้งใจปาใส่เด็กนักเรียนแต่อย่างใด ด้าน ร.ต.อ.กานต์ สิงห์ช้างชัย พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวดำเนินไปตามขั้นตอนพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานไว้หมดแล้วพร้อมกับได้เชิญครูคนก่อเหตุมาสอบถามก็รับสารภาพว่าทำจริงแต่ไม่ได้ตั้งใจปาใส่นักเรียน แต่ที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ก็เนื่องจากที่ผ่านมาอยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย ก็ได้มีการนัดหมายมาตกลงกันก่อนที่จะไม่สามารถตกลงกันได้จนผู้เสียหายเดินทางเข้าไปร้องเรียนที่กรุงเทพฯดังกล่าว ส่วนในทางคดี หากผู้เสียหายไม่ยอมความก็จะได้ติดต่อทางครูผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกลาวหาต่อไป ส่วนที่ไปร้องเรียนจนเป็นข่าวใหญ่ก็เป็นเรื่องของผู้เสียหาย ในส่วนของการดำเนินคดียืนยันว่าดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องแล้ว และเตรียมเรียก ครูคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการต่อไป.

Tweet

Share

0